หากเลือกได้ใครๆ ก็อย ากเป็นคนที่ถูกรักมากกว่าถูกเ ก ลี ย ด และถึงจะเป็นแค่เจ้านายไม่ใช่เจ้าชีวิต
แต่ตราบที่คุณยังได้ชื่อว่าเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาอยู่ ในอนาคตในหน้า
ที่การงานทั้งหมดของคุณ ก็ยังอยู่ในเงื้อมมือของเขาหรือเธออยู่ดี สำหรับใครที่เริ่มไม่แน่ใจตัวเองว่า
เป็นพวกความรู้สึกช้า จนไม่รู้ตัวว่าหัวหน้างานกำลังมีอาการเขม่นคุณเบาๆ
หรือไม่ปลื้มคุณอยู่ไหมนะ ดังนั้นก็อย่ารอช้า จงนำเช็ คลิสต์นี้ไปจับสัญญาณก่อนเลย
1.ไม่เคยมีความเห็นกับสิ่งที่คุณทำ
ไม่ว่าฟีดแบ็คในงานที่ทำจะดีหรือ ร้ า ย คุณย่อมอยากนำมาพัฒนาตัวเอง
แต่การที่เจ้านายไม่เคยแยแสต่องานที่คุณทำ อาจเพราะเขาไม่เคยสนใจว่า
คุณจะได้พัฒนาศักยภาพในงานที่ทำหรือไม่
2.ฉีกหน้าคุณบ่อยๆ
การวิพากณ์วิจารณ์ผลงานของคุณไม่ใช่เรื่องผิด แต่หากจงใจทำให้อาย
ด้วยการตำหนิคุณกลางที่ประชุม หรือต่อหน้าคนอื่น คงไม่ใช่สิ่งที่คนรักกันจะทำกันได้
3.อยู่นอกสายตา
ต่อให้คุณเป็นผู้รับผิดชอบหรือเกี่ยวข้องกับงานนั้นโดยตรงเจ้านายก็ไม่เคยให้คุณเข้า
ไปมีส่วนร่วมในการตัดสินใจสำคัญๆอยู่ดี รู้ไว้เลยว่านี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ
แต่หมายความว่า เจ้านายไม่เชื่อใจและไว้ใจคุณพอ
4.ไม่แม้แต่จะสบตา
เพื่อรักษาความเป็นมืออาชีพ ไม่ปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลต่อให้โกรธแค่ไหน
บางครั้งด้วยตำแหน่งที่ค้ำคอ ทำให้หัวหน้างานจำต้องข่มอารมณ์โกรธไว้จนลึกสุดใจ
แต่บางครั้งดวงตาที่เหมือนหน้าต่างของหัวใจก็ไม่อาจซ่อนเร้น
ความรู้สึกที่เป็นปรปักษ์เอาไว้ได้เพราะฉะนั้น ลองสังเกตอาการของเจ้านาย
เวลาโกรธหรือโมโหสุดๆ เขามักเลี่ยงที่จะมองหน้าหรือสบตาคุณหรือเปล่า
5.รอยยิ้มที่ไม่เคยได้รับ
ลองนับดูซิว่า คุณได้รับรอยยิ้มของความเป็นมิตรบ้างหรือไม่ถ้าขุดความทรงจำลึก
เท่าไหร่ก็ยังนึกไม่ออก คงไม่ต้องบรรยายว่าความสัมพันธ์ของคุณกับเจ้านายเป็นอย่างไร
6.เชื่อในสัญชาตญาณตัวเอง
ลองเปิดอกถามหัวใจตัวเองดูซิว่า คุณเองรู้สึกว่าเจ้านายมีอคติ หรือไม่ค่อยปลื้มคุณไหมนะ
โดยประเมินจากวิธีที่เขาปฏิบัติต่อคุณ ถ้าสุดท้ายแล้วสัญชาตญาณบอกว่า
“ใช่” คุณอาจยังไม่ต้องเชื่อหมดใจ แค่เริ่มจับสังเกตการแสดงออกของเจ้านายแล้วมาหาคำตอบอีกที
7.จงใจจู้จี้แค่กับคุณ
การที่เจ้านายทำตัวเป็นพี่เลี้ยง คอยคุมทุกฝีก้าวลงมาตามจิกทุกรายละเอียด
เฉพาะงานของคุณ นั่นคือสัญญาณชี้ชัดว่าเขากำลังไม่ไว้ใจคุณหรือจับผิดคุณอยู่
8.ทำเหมือนคุณเป็นตัวเชื้ อโ ร ค
เช่น ถ้าเห็นคุณรอลิฟต์อยู่ เขามักจะเลี่ยงขึ้นบันได
หรือ พยายามจัดตารางงานไม่ให้ต้องเกี่ยวข้องกับคุณ
นั่นเพราะเขาอาจกำลังส่งสัญญาณบางอย่างให้คุณรู้
9.คุยกันเหมือนส่งโท รเลขเลย
เมื่อคุณรู้สึกว่าเวลาชวนเจ้านายคุย ก็มักสงวนคำพูดคำจาจนน่าอึดอัด
ทำให้คู่สนทนาไปต่อไม่ถูก นั่นอาจเป็นเพราะเขาไม่ชอบหน้า
และไม่อยากคุยกับคุณก็เป็นไปได้
10.จับอาก ารจากภาษากาย
เพราะแม้ต่อหน้าเขาจะกลบเกลื่อน ความไม่ปลื้มคุณไว้ได้
แต่ท่าทางที่แสดงออกไม่ว่าจะเป็นการกอดอก, การกลอกตา
หรือการไม่ยอมละสายตาจากจอคอมพิวเตอร์ขณะสนทนากับคุณ
ล้วนเป็นสัญญาณความไม่เป็นมิตรที่ส่งออกมาทั้งสิ้น
11.ไม่อยากคุยต่อหน้า
หากเลือกได้เจ้านายมักเลือกที่จะคุยกับคุณผ่านทางเครื่องมือสื่อส า ร
มากกว่าที่จะเจอหน้า หรือพูดกันแบบตัวต่อตัว
12.ปิดประตูใส่ตลอด
ถ้าอย่างนั้นลองประมวลดูซิว่าประตูห้องทำงานหัวหน้า
คุณมักเปิดหรือปิดถ้าเป็นอย่างหลัง เขาอาจตั้งใจ
ส่งสัญญาณเป็นนัยบางอย่าง เพื่อให้คุณรู้
13.ไร้ตัวตน
ตามประสาผู้ร่วมงานการทักทายถาม ส า รทุกข์สุขดิบกันบ้าง
เป็นธรรมเนียมปฏิบัติทั่วไป แต่หากเจ้านายของคุณไม่เคย
แม้แต่จะทักทาย และทำเหมือนกับว่าคุณไม่เคยมีตัวตนในโลกของเขาเลย
แบบนี้ให้รู้ไว้เลยว่า คนที่รักกันเขาไม่ทำแบบนี้
14.แจ๊คพอตต้องเป็นเราทุกที
ไม่แปลกเลยที่เจ้านายจะเปลี่ยนแปลง เพราะการมอบหมายงาน
แต่มันก็ไม่น่าจะเกิดกับคุณทุกครั้ง ใช่ไหใล่ะ
15.ไม่เคยเห็นด้วยกับคุณ
ไม่ว่าคุณจะเสนอไอเดียอะไร แล้วเจ้านายมักขัดตลอด ทั้งที่กับเพื่อนร่วมงาน
คนอื่นกลับไม่เป็นแบบนี้ เท่านี้ก็ชัดเจนแล้วว่าเขารู้สึกกับคุณแบบไหน
16.ไม่อยากรู้จักคุณสักนิด
หากเจ้านายของคุณ เข้าข่ายเป็นพวกพูดไม่ค่อยเก่ง เลยไม่ค่อยได้สุงสิง
กับลูกน้อง ยังพอทำใจได้แต่หากเขาช่างเจรจาพูดคุยเล่นกับทุกคน
แล้วไม่เว้นแม้แต่ลูกหรือสามีของลูกน้อง แต่กลับเมินเฉย
ที่จะพูดกับคุณนั่นคงไม่ใช่ สัญญาณที่ดีมากนัก
17.ดูถู กความสามารถของคุณ ด้วยการให้ทำงานง่ายๆ
หากคุณไม่ใช่พวกรักสบาย ทำงานไปวันๆ ก็คงมองออกว่างานที่เจ้านายมอบหมายให้ทำนั้น
มันเป็นงานที่ตรงกับขีดความสามารถ หรือประสบการณ์ของคุณหรือไม่
ถ้าหากเจ้านายมอบหมายแต่งานง่ายๆ นั่นอาจเพราะเขาไม่ไว้ใจคุณ
หรือมักบังคับให้คุณหางานใหม่ทางอ้อมนั่นเอง
18.ขโม ยไอเดียหน้าตาเฉย
ถ้าโชค ร้ า ยจริงๆ ไปเจอเจ้านายประเภทนี้ คงต้องทำใจเพราะ
ต่อให้เป็นลูกน้องที่เขาปลื้ม ก็ยังทำแบบนี้ได้ลงคอ
ประสาอะไรกับคนที่เขาไม่ชอบหน้าอย่างคุณ เขาจะไม่กล้าทำล่ะ
