1. ความสมบูรณ์แบบ ไม่มีจริง
หากคุณเป็นพวกแสวงหาความสมบูรณ์แบบ ความเป็นจริงก็คือ
มันไม่มีสิ่งใด ที่เกิดขึ้นจากมนุษย์ แล้วจะสมบูรณ์แบบ 100 % ได้เลย
ความพย าย ามทำให้ดีที่สุด นั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่การยึดติดกับคำว่า
สมบูรณ์แบบนี่แหละที่มันผิด การรอคอยแผนการ ที่สมบูรณ์แบบเพื่อลงมือทำจริงๆ
นั่นเป็นเรื่องเพ้อฝันเชียวแหละ เพราะคุณจะไม่ได้ทำอะไรเลย
ถ้าความคิดนี้ ยังไม่เปลี่ยน คุณจะแก่ชราไปพร้อมกับความไม่สมบูรณ์แบบของคุณนั่นแหละ
2. มีความต่างกันระหว่างคำว่า ทำงานหนัก และ ทำงานอย่ างชาญฉลาด
ยุคนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว หากคุณไม่ใช่คนที่ทำงาน ในโร งงานที่ทำแต่อะไรซ้ำๆ
แต่ถ้าคุณทำงานในบริษัท คงไม่ใช่ทางที่ฉลาดนัก ที่คุณจะทำตัวเป็นคนขยันด้วยการทำงานช้า
จนเต็มเวลางานไปเอง เพื่อให้เจ้านายหัวโบราณคิดว่า “คุณนี่เป็นคนขยันเหลือเกิน”
แต่จริงๆ แล้ว คุณเป็นพวกที่ใช้เวลาทำงานมาก กลับได้ผลงานน้อย เมื่อเป็นคนแบบนี้
ขอแนะนำให้หยุดเถอะ จากนั้นเปลี่ยนเป็นคนที่คิดและทำ ด้วยวิธีการที่เร็ว
เพื่อให้ได้ผลงานมากที่สุด ฟังแล้วคุณอาจรู้สึกว่า วิธีนี้มันโ ง่ ฉันจะขยันเหนื่อยเพื่อบริษั ทเพื่อ
จะทำช้าหรือเร็ว ก็ได้เงินเดือนเท่ากัน ไม่ผิดที่จะคิดแบบนี้ แต่นี่แหละ คือวิธีคิดของพวก
ที่คิดจะใช้ชีวิตไปวันๆ การที่คุณเต็มที่ กับการสร้างผลงานด้วย เวลาที่รวดเร็ว
มันไม่ใช่การทำเพื่อใครหรอก แต่ทำเพื่อตนเองทั้งนั้น หากคุณไม่ฝึกตัวเองให้เก่ง
เหนือใครเขา วันที่คุณจะได้เติบใหญ่ คงไม่มี วันที่คุณจะออกไปสร้างชีวิตตนเอง คงเป็นเพียงความฝัน
3. อะไรที่ผ่านไปแล้ว ก็ปล่อยให้ผ่านไป
หากต้องพบกับความล้มเหลว คุณจะต้องรู้สึกยังไงกับมันล่ะ
จะเศร้ าโศ กเสียใจไหม ถ้าคุณพบกับความสำเร็จ คุณจะต้องรู้สึกยังไง
ต้องรู้สึกยินดี รู้สึกสะใจกับความสำเร็จ ต้องฉลองงั้นหรือ? ไม่เลย ความเป็นจริงก็คือ
เรื่องเหล่านี้ มันเป็นแค่เรื่องที่เกิดขึ้นชั่ วคราว คุณอาจรู้สึกไปกับมันได้ แต่อย่ าได้
ใส่ใจหรือนำมาเป็นเรื่องเป็นราวต่ออนาคต เพราะเรื่องที่เกิดไปแล้ว มันไม่ได้ กำหนดอนาคตของคุณเลย
4. สิ่งที่คุณมีอยู่ตอนนี้ คือปัจจุบัน
คุณมีสิทธิ์ที่จะคิด ที่จะฝันได้เสมอ มีสิทธิ์ที่จะนำเรื่องราวในอดีต มาบอกเล่าสู่คนอื่นฟัง
ทั้งเรื่องน่ายินดี น่าชื่นชม เรื่องร้ า ยทั้งหลาย ที่จะเป็นประสบการณ์ต่อผู้คนมากมาย
แต่คุณอย่าลืมว่า คุณมีแค่ตอนนี้และเดี๋ยวนี้ ที่คุณจะทำสิ่งต่างๆ ให้เกิดขึ้นจริงได้
เราไม่มีวันรู้อนาคตได้ว่า ชีวิตจะเป็นอย่างไร คุณควรคิดเสมอว่า “ฉันจะทำวันนี้ให้
เหมือนวันสุดท้ายของชีวิต” จะได้ไม่ต้องเสียใจว่า “ฉันยังไม่ได้ทำนั่น ยังไม่ได้ทำนี่” ทำมันซะตั้งแต่วันนี้
5. หาเวลาให้กับตัวเอง ถ้าคุณต้องการ
เวลาว่างเรามีเสมอ คุณแค่ทำให้มันหมดไปโดยไม่ทันคิดแค่นั้น คำกล่าวยอดฮิ ตที่ว่า
ฉันไม่มีเวลา เป็นเพียงคำพูดสวยหรู ของคนที่จัดการเวลาไม่เป็น เพื่อให้คนอื่นเห็นใจ
แต่ก็น่าแปลกที่คนพวกนี้ จะมีเวลาเล่นโทรศั พท์ ท่องโซเชี่ ยล นอนดู Y o u T u b e
เล่นเก ม พวกเขามีเวลาทำเรื่องพวกนี้ได้ โดยบอกสังคมว่า ฉันไม่มีเวลา เพราะอะไรกัน
6. ความล้มเหลว คือสิ่งที่ต้องเจอในชีวิต
จะต้องยอมรับให้ได้ว่า ชีวิตของทุกคน ต้องพบเจอกับความล้มเหลวกันทั้งนั้น
และคุณเองแค่ กำลังเจอกับเรื่องๆ หนึ่งที่เป็นธรรมชาติของคนเรา คือ “การล้ ม”
สิ่งสำคัญคือ ล้มแล้วลุกขึ้นมาได้มั้ย ไวแค่ไหน และคนที่ไม่เคยล้มเหลว มีแต่พวกที่ไม่เคยทำอะไร
สำเร็จสักอันเลยเท่านั้น พอคุณกล้าที่จะยอมรับความจริง นั่นเท่ากับว่าคุณเติบโตไปอีกขั้นแล้ว
7. ยอมรับข้อบกพ ร่ อง ความผิดพลาดในชีวิตได้
ไม่มีความหมาย ถ้าจะจมอยู่กับความผิดพลาดที่ผ่านมา มัวคิดมาก
หรือโท ษตัวเองจะได้อะไรขึ้นมา ถ้าคุณยังใช้ชีวิต โดยมีความกลัวเป็นตัวนำ
คุณเองนั่นแหละจะไปสู่ทิศทางที่ผิด ฉะนั้น ต้องเริ่มที่จะกล้ายอมรับตัวเอง
ยอมรับว่า คุณขาดอะไร เพราะ ไม่มีใครที่เก่งไปเสียทุกเรื่อง อย่ าใส่ใจกับ
ข้อบกพร่ อ งของตัวเอง จงยอมรับมัน และมุ่งใส่ใจกับเรื่องที่คุณเชี่ยวชาญดีกว่านะ
ขอขอบคุณ sanook
