
ในเรื่องของความขิ้เกียจนั้น มันคือสิ่งที่ทุกคนมีอยู่ในตัวอยู่แล้ว เพียงแค่จะมีมากหรือมีน้อยต่างกันไปก็เท่านั้น
หลายคนมองว่า ความขิ้เกียจ คือสิ่งที่เ ล ว ร้ า ย ที่จะนำพาชีวิต ดิ่งและมีแต่จะถอยหลังไปเรื่อยๆ
แต่จะเกิดอะไรขึ้นนะ หากเรากำลังจะบอกว่า ความขิ้เกียจของคนนั้น คือส่วนหนึ่งที่ทำให้คนเรา
มีแนวโน้มจะประสบความสำเร็จได้ คุณเคยรู้มาก่อนไหม ว่าคนที่มีนิสัยแบบนี้มากมายหลายคน
กลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จมากมาย เช่น Charles Darwin เขาเป็นคนขิ้เกียจยิ่งกว่าตัวสล็ อ ต
แบบว่าขิ้เกียจจนครูและพ่อแม่ รู้สึกทุกข์ท ร ม า นและต้องคอยเคี่ ยวเข็ญเขาอย่างหนัก
เพื่อที่จะให้เขาไปโรงเรียนบ่อยครั้งที่เขาหลับในห้องเรียน และไม่เคยทำการบ้ า นมาส่ง
แม้ว่าเขาจะกลายเป็นนักวิทย า ศาสตร์ นักเขียน แต่ผลงานแต่ละชิ้น ใช้เวลานานมากกว่าจะเสร็จได้
เช่น ของคนขิ้เกียจผู้โด่งดัง คือ Wi nston Churchill เป็นคนที่มีคะแนนตอนสมัยเรียน แ ย่มาก
ตั้งแต่อนุบาล ถึงกระทั้งจบมัธยมปลาย เขาไม่สามารถเข้าเรียนต่อมหาวิทย า ลัยได้เลย
ไม่ชอบเล่นกีฬา ไม่ชอบทำกิจกร ร มอะไรสักอย่าง แต่สิ่งที่ชอบคือการนั่งเฉย ๆ อยู่บนเก้าอี้โยก
แล้วสุดท้ายเขากลายเป็นนักก ารเมื องผู้ยิ่งใหญ่ หน้าที่หลักเขาก็คือการนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่เขาชอบนั่นแหละ
และยังมีบุคคลที่ประสบความสำเร็จ ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์อีกมากมาย ที่เป็นไ อ้ตัวขิ้เกียจ
เช่น Einstein,Picasso, Mendeleev , Newton อีกมากมาย หากดูจากรายชื่อแล้วเรามั่นใจเลยว่า
คุณต้องมีข้อสงสัยอยู่ในใจมากมายแน่นอน แต่ยังไงก็ตาม พวกเขาก็ทำให้ได้ เห็นกันแล้วว่า
คนขิ้เกียจ ก็สามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้ และนี่คือเหตุผล ว่าทำไมคนที่ขิ้เกียจ
จึงมักจะมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จ มากกว่าคนปกติด้วยสิ!
1.เพราะคนขิ้เกียจ เขาไม่ได้แปลว่าไม่ฉลาด คนที่น่าจับตามองที่สุด คือคนขิ้เกียจที่ฉลาดนี่แหละ เพราะหากขิ้เกียจ
แล้วยังโ ง่เนี่ย ก็จบเลยขยันแต่ไม่ฉลาดก็จบเหมือนกัน หากขยันด้วยฉลาดด้วย ก็ถือว่าเป็นคนในอีกประเภท
แต่ที่บอกว่าคนขิ้เกียจ ที่ฉลาดนั้นน่าจับตามาอง ก็เพราะว่าคนเหล่านี้จะใช้ส ม อ ง ที่ดีของเขาทำทุกสิ่งอย่างให้รวดเร็ว
ด้วยขั้นตอนน้อยๆ เรียกได้ว่า หาวิธีที่ดีและง่ายที่สุดให้กับตัวเองเสมอ ฉะนั้นถ้าคุณต้องเลือกลูกน้องสักคน
ให้คุณนั้นเลือกคนที่ขิ้เกียจ แต่ฉลาด แล้วต่อไปคุณจะสบาย
2.ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่คนขิ้เกียจส่วนมากมักจะมีความคิดสร้างสรรค์ โดยเฉพาะถ้าหากว่า
ต้องเข้าไปพัวพันในเรื่องของการจัดการ คุณจะยิ่งเห็นความคิดสร้างสรรค์ ของพวกเขา
ก็เพราะว่าคนขิ้เกียจมักจะไม่ชอบอะไรที่มันซับซ้อน ไม่ชอบเสียเวลา พวกเขาอย า กรีบทำอะไร
ให้เสร็จไว ๆ จะได้เอาเวลาไปทำอะไร สไตล์ของตัวเอง ฉะนั้น ลองสังเกตพนักงานออฟฟิศ
ที่คุณอยู่ ดูก็ได้ว่า พนักงานคนใด ที่ว่าขิ้เกียจ พอโดนใช้งานพวกเขาจะรีบหาทางลัด
ที่มีประสิทธิภาพได้ใกล้เคียงกัน คือพย า ย า มทำทุกวิถีทางให้ชีวิตง่ายขึ้น
3.เพราะหลายคนประสบปัญหาการพักผ่อนไม่เพียงพอ และบางคนใช้พลั ง งานไปในแต่ละวันด้วย
แต่ไม่รู้ว่าตัวเองควรที่จะพักผ่อ น เมื่อไหร่ แต่สำหรับคนขิ้เกียจนั้น พวกเขารู้ดีว่าตอนใด เมื่อไหร่ที่พวกเขาเหนื่อย
ตอนไหนที่พวกเขาอย า กนอน และการเป็นคนขิ้เกียจที่ชื่นชอบการพักผ่อน เป็นพิเศษนี่ไง
ร่ า ง ก า ยของพวกเขา จึงแข็งแร ง เมื่อเทียบกับคนขยัน ๆ อย่างมากๆ นักวิทย า ศาสตร์ ที่ต้องตื่น
มาเฝ้าการท ดลองกลางดึก เมื่ออายุได้ 40 ปี ร่ า ง ก า ยของคนที่ใช้งาน มันไปกับการทำงานหนัก
จะร่วงโรย ไวกว่าคนขิ้เกียจเกือบเท่าตัวเลยเชียวล่ะ
4.เพราะคนขิ้เกียจ กล้าได้กล้าเสีย เขามักมีโครงการ หรือความคิดมากมายเต็มหัวไปหมด
เพราะพวกเขาว่าง วัน ๆ ไม่ค่อยจะทำอะไรไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ปล่อยความคิดให้เกิดขึ้น
แล้วก็ลอยออกมาจากสม อ งไปวัน ๆ แต่คุณหารู้ไม่ว่าสิ่งที่คนเหล่านี้คิด ส่วนใหญ่จะเป็นไอเดียที่ตอบโจทย์
ความต้องการของผู้อื่น โดยเฉพาะหากเป็นเรื่องความสะดวกสบาย และมันยังเป็นไอเดียที่แปลก
ไม่เหมือนสิ่งที่มีอยู่แล้วแน่นอน คนขิ้เกียจนี่แหละนักริเริ่มตัวยง ขอให้เขาลงมือทำด้วยเท่านั้น
รับรองได้เลยว่าต้องมีอะไรเจ๋ง ๆ แปลกๆ เกิดขึ้นบนโลกเป็นแน่นอน
5.พอมี Application หรือ Technology อะไรใหม่ ๆ มา หรืออะไรก็ตามที่สามารถช่วย ให้ผู้คนทำงานได้รวดเร็ว
หรือช่วยทุ่นแร งได้ เขาทั้งหลายจะรู้เรื่องทั้งหมด และคนขิ้เกียจยังจะใช้งานมันได้เร็วกว่าคนปกติด้วยนะ
ฉะนั้น จึงไม่แปลกที่คุณจะเห็นว่า คนขิ้เกียจเขาจะพย า ย า มหาสิ่งใหม่ ๆ อัพเด ท มาทดล องใช้อยู่ตลอดเวลา
ก็เพราะว่าเขากำลังหาทางที่ จะสบายมากขึ้น ถ้าคุณอย า กสบายก็ทำตามเขาแต่ถ้าคุณมีความคิดอย่างนั้น
ก็แปลว่าคุณมีแนวโน้ม เป็นคนขิ้เกียจขึ้นมาแล้วนะ แต่มันอาจจะฟังดูขัดแย้ งกันไปหน่อย กับยุคสมัยที่อะไร
ก็ต้องฉับไวไปหมด แต่นั่นคือเรื่องจริง แม้การนั่งเฉย ๆ แบบคนขิ้เกียจมันอาจจะดูน่าเบื่ อไปสักหน่อย
แต่มันเป็นวิธีการที่ดี สำหรับการพัฒนาจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ไปในตัว ฉะนั้น
คนขิ้เกียจที่คุณเคยเห็นนั้น พวกเค้าก็มีมุมดี ๆ ซ่อนอยู่นะ เพียงแค่ว่าโอกาสที่เขาจะลงมือทำ มันย ากกว่าคนทั่วไปไง
ขอขอบคุณ u n lo c k m e n