1.กลัวไปหมด จนไม่กล้าคิดทำอะไร
หลายคนไม่กล้าลงทุ น เพราะกลัวจะข าดทุน กลัวจะเสียเวลา ทำให้ตนเองติดอยู่
หลังกำแพง ซึ่งต่างจากคนรวย ที่จะตั ดความคิดเหล่านี้ออกไป ทำให้คนร วยประสบความสำเร็จ
เพราะพวกเขากล้าที่จะก้าวข้ามกำแพง ความกลั วไปแล้วไง
2. รู้หมดทุกอย่ าง แล้วไม่ให้ใครมาสอน
คนร วยคือคนที่ไม่ยอมรับ ว่าตัวเองรู้ทุกเรื่องนะ เพราะจะทำให้เป็นโอกาสที่ ทำให้ต้องหาความรู้ใหม่ๆ
เพราะอะไรที่เรารู้หรือชำนาญอาจจะตกยุคไปแล้วก็ได้ ทุกวันนี้โลกมันไปเร็ว แต่ตรงกันข้าม
กันคนส่วนใหญ่ ที่มักจะขิ้เกี ยจในการหาความรู้ใหม่ๆ เพื่อให้มีร ายได้เพิ่ม อ้างอยู่คำเดียวว่า
“ฉันรู้หมดแล้ว” ทำให้ข าดโอกาสที่จะได้พบช่ องทางหาร ายได้ใหม่ กว่าจะรู้ตัวอีกที โอกาสใหม่ๆ ก็ไม่มีแล้ว
3.ไม่อย ากออกจาก ที่ๆเคยอยู่
Comfort Zone คือจุด ที่ทำให้คนเราทุกคนรู้สึกปล อดภัย แต่ถ้าไม่ก้าวออกไปจากตรงนี้
ก็อาจหมดโอกาสที่จะก้าวไปสู่สิ่งที่ดีกว่า หรือสิ่งที่สร้างร ายได้ได้สูงกว่า เพราะสิ่งดีๆ เหล่านี้
มันอยู่ข้างนอก ตรงกันข้ามกับ คนรวยเพราะพวกเขา พร้อมที่จะก้าวออกจาก ที่ๆ สบาย
ไปยังจุดที่มีความเสี่ ยงมากกว่า และแลกมาด้วยความสำเร็จ และร ายได้ที่สูงกว่า
4. อิจฉ าริษย า
คนส่วนมาก จะหาเหตุผลมาทำให้ตัวเอง ไม่ต้องทำอะไรใหม่ โดยอาศัยความอิจฉ าริษย านี้
เป็นเครื่องมือในการทำล ายคนที่มีร ายได้มากกว่าตนเอง เช่น อิจฉ าคนรวยที่
อยู่ดีกินดีกว่า มีบ้านหลังใหญ่โต แต่สุดท้ายก็ได้แต่บ่นไปงั้นแหละ
แต่ไม่เคยลงมือทำอะไร เพื่อให้มีคุณภาพชีวิต ที่ดีขึ้นเลยสักนิด
5. เสแสร้ง
คนส่วนใหญ่ นอกจากจะไม่หาร ายได้เพิ่ม กลับยังมีการใช้จ่าย เพื่อให้ตัวเองดูดีในสังคมด้วย
โดยการเสแสร้ง แกล้งทำ เช่น งานบวช ก็กู้ห นี้ยืมสินมาจัดงานพร้อมเครื่องเสี ยงดังกระหึ่ม
เพื่อให้ตัวเองได้หน้า ไม่แพ้คนอื่นเขา ต่างกันสิ้นเชิงกับคนรวย ที่เขาจะแสดงออก
ตามความเป็นจริงไม่เสแสร้ง เพียงเพื่อให้ตนเองดูดี แต่ในกระเป๋ากลับ ไม่มีตังค์หรอกนะ
6.โทษได้ทุกอย่ าง เว้นตัวเอง
คงเคยเห็นมาแล้วกับคนที่มักจะโท ษๆๆ คนอื่นอยู่เรื่อย อะไรก็ตามที่พอ จะนึกได้
ว่าเป็นสาเหตุ ที่ทำให้ไม่มีเงินมากเช่น โท ษรั ฐบ าลว่าทำให้เศรษฐกิจแย่ จนทำให้ตนเองตกต่ำ
โท ษเพื่อนว่ามัวแต่พาไปทำอะไรก็ไม่รู้ ทำให้ไม่มีเวลาหาเงิน คือโท ษทุกอย่ าง
เว้นตัวเอง ลองหันไปมองคนอื่น ที่เขารวยดูบ้าง เขาไม่เคยโทษอะไรทั้งนั้นนะ
เพราะปัญหา ทุกอย่ างมันมีทางแก้เสมอ แค่ต้องตั้งสติก่อน
7. ชอบตัดสินคนอื่น จากภายนอก
สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องง่ายมากๆ เพราะไม่ต้องอาศัย ความรู้ เหตุผลใดๆ เลย
ใช้อคติล้วนๆ นี่แหละ เรื่องราวปกติ ทั่วไปที่พบเห็นทุกวัน แต่มันเกี่ยวข้องอะไร กับความร วย
หรือความจน ก็เพราะถ้าคุณเห็นคนรวย แล้วตั ดสินพวกเขาว่า พวกเขารวยจากทรั พย์สิน
ที่แก่งแ ย่งมาจากตระกูล หรืออื่นๆก็ตาม ในท้ายที่สุดในหัวของคุณ ก็จะเริ่มสร้างภาพว่า
ฉันเกลี ย ดคนรวย เพราะเขาไม่ดี และฉันก็ไม่อย ากเป็นคนไม่ดีแบบเขา
ฉะนั้น ฉันเลยไม่เป็นคนรวย แล้วคือฉันยอมจนงี้หรอ ยอมมีร ายได้เท่าๆ กับรายจ่ายในแต่ละเดือนก็พอหรอ
เพราะงั้นจึงอย่า ตัดสินคนจากภายนอก ดูเขาให้นานๆ เพื่อที่เราจะได้พบอะไรดีๆ เหมือนกันเขา
8. การมีเหตุผล ที่จะไม่ทำอะไรสักอย่าง
ก็คืออ้ างเหตุผลที่สมเหตุสมผล ไม่ได้อ้างขึ้นลอยๆ เช่น ฉันยังเด็ กเกินไป คนอื่นเขาคง
ไม่เชื่อใจ ในสิ่งที่ฉันจะทำหรอกนะ ฉันคงไม่สามารถ เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ ได้หรอก
ฉันไม่มีประสบการณ์ ในเรื่องนี้เลย คงทำไม่ได้หรอก เข้าใจฉันหน่อยสิ!
9. ขิ้อายมากไป
อย่ าให้ข้ออ้างความขิ้อาย ความเป็นโลกส่วนตัวสูง ไม่ชอบพบปะผู้คน มาใช้เป็นเหตุผล
ที่คอยปิดกั้นเส้นทาง ความสำเร็จสิ เพราะคุณอย่ าลืมว่า เราเป็นสั ตว์สังคม และถ้าคุณต้องการ
ร่ำรวยจากสังคม คุณก็ต้องสร้างคุณค่าให้แก่ผู้อื่นด้วย เพราะยิ่งคุณสร้าง
คุณค่าให้แก่ผู้อื่นมากแค่ไหน คุณก็ยิ่งร่ำรวยมากขึ้น เพราะคนอื่น ๆ ยินดี
ที่จะใช้เงินเพื่อตอบแทน แลกเปลี่ยนกับคุณค่า ที่คุณมีอยู่ไงล่ะ เข้าใจยัง!
10. ทำให้คนอื่น มีความสุขก่อน
คนจนหลายๆ คน ที่ไม่กล้าเอา เวลาว่างของตัวเองไปหาร ายได้เพิ่ม แค่เพราะแคร์คนรอบข้าง
กลัวว่าเขาจะไม่มีคนดูแล โดยลืมไปว่า สภาพของตัวเองย่ำแ ย่แค่ไหน
คนที่ร่ำรวย จะสามารถแยกแยะสิ่งที่ตัวเอง ต้องทำเพื่อให้ตัวเองมีความสุข กับเพื่อให้
คนอื่นมามีความสุข ออกจากกันได้ เพราะหากเราไม่มีความสุขมัน
ก็ย ากที่เราจะทำให้คนอื่น มีความสุขแบบยั่งยืนได้เหมือนกันนะ
