
เรื่องจุ ดอ่ อนของคนไท ยนั้นที่ถูกชาวต่างชาติมองว่า เป็นสิ่งที่พัฒนาอยู่ที่เดิม ไม่ก้าวหน้าไหน
ซึ่งประเทศอื่นนั้น มีความก้าวหน้าไกลมาก หากอย ากรู้กันแล้วว่า จุดอ่อนนั้น
มันคือตรงไหน จะจริงอย่ างที่เขาว่าไหม ไปดูกัน การผ่านเวทีในระดับโลกหลายต่อหลายครั้ง
มันก็ทำให้ไทยถูกวิพากวิจารณ์อ ย่ างหนัก ถึงการก้าวเปลี่ยนอ ย่ างรวดเร็ว
ด้านเศรษฐกิจเทคโนโลยีและวัฒนธรรม คือว่าเป็นการวิเคราะห์ที่จี้แ ท ง ใจดำคนไทยเลยล่ะ
และข้ อคิดเห็นของนายเซ็ทซึโอะอิอุจิ ประธานองค์การ ส่งเสริมการค้ าต่างประเทศ
ของญี่ปุ่นประจำประเทศไท ย เขาได้ระบุว่าไทยอาจไม่เป็นประเทศ ที่น่าสนใจในการลงทุ น
โดยเขาได้ชี้จุดอ่ อนคนไทยไว้ ถึง 10 ข้ อด้วยกัน และเราคนไท ยควรรู้และรับทราบเอาไว้
เพราะที่กล่าวมานั้น ทุกข้ อแทบปฏิเสธไม่ได้ จงพิจารณาอย่ างปราศจากอคติ
และไม่ต้องว่าเขานะเพราะนี่คือ เรื่องจริงที่มันเป็นกระจกบานใหญ่สะท้อนตัวตนเอง
1. มองอนาคตข้างหน้าไม่เป็น
เพราะคนไทยมากกว่า 70เปอร์เซนมักจะทำงานแบบไร้อนาคต ทำแบบวันต่อวัน
แก้ปัญหาเฉพาะหน้า มันจะมีน้อยคนมากๆ ที่จะทำงานเป็นระบบ
เป็นขั้นเป็นตอนมีเป้าห ม ายในอนาคตที่ชัดเจนกว่าคนอื่น
2.ไม่จริงจัง กับความรับผิ ดชอบต่อหน้าที่ของตนเอง
ทำงานแบบผักชีโรยหน้า ต่างกับคนญี่ปุ่นหรือยุโรป ที่จะให้ความสำคัญกับสัญญาเรื่องข้อตกลง
อย่างเคร่งครัด เพราะมันคือความเชื่อถือในระยะย าวส่วนคนไท ยจึงถูกลดเครดิตความน่าเชื่อไปเรื่อย ๆ
3.ขี้อิจฉา
เพราะสังคมไท ยไม่ค่อยเป็นสุภาพบุรุษเลี่ยงเป็นศรีธนญชัย
ยกย่องคนมีอำนาจ ถ้ามีเงินก็ไม่สนใจภูมิหลังขงเขา โดยเฉพาะคนที่ล้ม
บนฟูกแล้วไปเกาะ ผู้มีอำนาจเอาตัวรอ ดไปเรื่อยๆ คนพวกนี้ร้ า ย
ยิ่งกว่าผู้ก่อการร้ ายดีแต่พูด มือไม่พายเอาเท้ารานํ้า
ทำให้คนดีไม่กล้าเข้ามา เพราะกลั วเปลื องตัว หรือบางทีอาจอยู่ไม่ได้
4.การศึกษา ไม่ทันสมัยมากพอ
เพราะคนไท ยเก่งแต่ภาษาของตัวเองแค่นั้น ทำให้เสียโอกาสในการแข่งขัน
กับต่างช าติในเวทีต่าง ๆ เราไม่กล้าแสดงออ กอายไม่มั่นใจในตัวเอง
จึงต ามหลังชาติอื่นอยู่ตลอด คนที่มีฐานะดีๆ หน่อยจะส่งลูกไปเรียนเมืองนอก
เพื่อโอกาสที่ดีกว่า เพื่อเส้นทางอาชีพที่มั่นคง
5.คนไทยไม่รู้จักหน้าที่ของตัวเอง
โดยเฉพาะหน้าที่ที่มีต่อสังคม เป็นประเภทมือใครย าวสาวได้สาวเอา
มันเกิดธุรกิจการเมือง ธุรกิจราชการทำให้ประเทศช าติล้าหลัง ย่ำอยู่กับที่
6.กฎห ม า ยไม่เข้มแข็งพอ
ทำงานแบบลูบหน้าปะจมูกปร าบปร ามไม่จริงจังการดำเนินการกับผู้มีอำนาจ
จะทำแบบเอาตัวรอ ดไปก่อนไม่มีมาตรฐาน เอาง่ายๆ ก็ 2 มาตรฐานนั่นแหละ
7.ไม่พร้อมสำหรับเวทีโลก
เพราะการสร้างความน่าเชื่อถือในเวทีการค้ า ยังข า ดทักษะและทีมเวิร์คที่ดี
ทำให้สู้ประเทศเล็ก ๆ เช่นสิงคโปร์ไม่ได้เลย
8.กระจายความเจริญ ยังไม่เต็มที่
ประชากรประมาณ 60 ถึง70เปอร์เซนที่อยู่ห่างไกลนั้น คือข าดโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิต
และชุมชน ซึ่งเป็นหน้าที่ของภาครั ฐที่ต้องส่งเสริม แต่ทำไมถึงไม่เป็นอย่างนั้นล่ะ
9.เอ็นจีโอ ค้านลูกเดียว
เพราะบางกลุ่มอิงอยู่กับผลประโยชน์ มีบ่อยครั้งที่ต้องเสี ยโอกาสอย่ างมหาศาล
เพราะการค้ านหัวชนฝาของเขา เหตุผลจริง ๆ ไม่พูดกันซะงั้น
10.เลี้ยงลูกก็ไม่เป็น
ทุกวันนี้เด็ กไทยข า ดความอ ดทนไม่มีภูมิคุ้มกัน ไม่เข้มแข็งพอ เพราะการเลี้ยงลูกแบบไข่ในหิน
ไม่สอนให้ดูแลตัวเองได้ ไม่กระตือรือร้นในการช่วยตนเอง ไม่ค้นหาตัวเอง
และไม่สอนให้สำนึก รับผิ ดชอบต่อสังคมด้วย
ทั้งหมดที่ว่ามานี้ มันคือเรื่องจริงที่เถียงไม่ออ ก ความจริงที่แสนเจ็ บป วด
เห็นทีไท ยเราจะต้องปรับตัวอย่ างหนักแล้ว เริ่มตั้งแต่ในครอบครัว
สังคม ไปถึงหน่วยงานภาคธุรกิจและและภาครั ฐ ต้องร่วมกันตระหนักและหาทางแก้ให้จริงจังมากขึ้น