
1. ระบ ายออกมาเป็นตัวหนังสือ
ลองซื้ อไดอารี่สักเล่ม , โน้ตต่าง ๆ ในมือถือหรือในคอม ฯ เขียนความรู้สึกในใจลงไป
ถ่ายทอดเหตุการณ์ร้ าย ๆ เรื่องราวแ ย่ ๆ ที่เราต้องเจอในแต่ละวันลงไปใน
แล้วลืมมันไปชั่ วคราว เหมือนฝากเรื่องร้ าย ๆ ไว้ในนั้น เราจะรับรู้ได้เลยว่า สิ่งต่าง ๆ
ที่ต้องแบกรับ มันหายไปจิตใจมันจะเบาขึ้น เมื่อถึงวันหนึ่งที่เราเข้มแข็งขึ้นแล้ว
แล้วกลับไปอ่ านไดอารี่เล่มนั้นดู จะพบว่าสิ่งที่ทำให้ทุกข์ใจจริง ๆ แล้ว
เป็นเราที่คิดวนเวียนซ้ำ ๆ นำความทุกข์นั้นมาทำร้ ายตัวเองซ้ำ ๆ ต่างหากล่ะ
2. ร้องไ ห้ออกมา
มันคือการปล ดเปลื้ องอารมณ์ออกมาในเวลาอันเหมาะสม คือการบำบั ดที่ธรรมชาติของร่างกายสร้างไว้
ในเวลาที่ความรู้สึกพุ่ งถึงขี ดสุด ไม่ว่าจะดีใจหรือเสียใจ ก็ทำให้ร้องไ ห้ได้ทั้งนั้น
น้ำตาแห่งความยินดี น้ำตาแห่งความเศร้ าโศ ก ไม่ใช่เรื่องน่าอาย คนที่ร้องไห้ไม่ใช่คนที่อ่อนแอ
เราทุกคน มีหัวใจ เราเป็นมนุษย์ที่เข้มแข็งขึ้นได้ ก้าวหน้าได้ พัฒนาได้
3. ไม่คิดมาก ทำตามใจตนเองบ้าง
สำหรับคนที่มักกังวลเรื่องต่างๆ หรือคนที่เป็นห่วงความรู้สึกของคนอื่นเกินไป
อาจไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเป็นคนคิดมาก เมื่อคิดมาก ก็จะนำมาซึ่ง อารมณ์ที่ไม่มั่นคง
ทางออกคือ ควรเริ่มทำในสิ่งที่ช่วยเพิ่ม ระดับความพอใจในตัวเอง ไม่คิดมาก หาความสุขให้ตัวเอง และทำอะไรที่ตัวเองอย ากทำ
4. ระบ ายให้คนรอบข้างฟัง
เล่าสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกคับข้อง ให้คนรอบข้างฟังบ้าง บางทีอาจเป็นเพราะเรารู้สึกเกรงใจ
ที่จะพูดเรื่องที่ชวนอึดอัดใจเหล่านั้น แต่เชื่อเหอะ ว่าทุกปัญหามีทางออก
เราอาจได้รับฟังมุมมองใหม่ ๆ จากคนอื่นๆ ที่เป็นห่วงเราก็เป็นได้นะ
5. พบผู้เชี่ ยวชาญบ้าง
หากทำทุกทางแล้ว ยังรู้สึกท ร ม า น ไม่อาจหลุดพ้นความรู้สึกนี้ ควรไปพบผู้เชี่ยวชาญ
เช่น นักจิ ตวิทย า เพื่อขอคำปรึกษากับท่านบ้าง หรือไปเที่ยวเปลี่ยนสถานที่ ไปจากความอึดอัด
สิ่งไหนทำให้เรารู้สึกอึดอัดใจ ก็ไม่ควรทนอยู่กับมัน เรื่องอะไรจะทำให้ตัวเองทุ กข์ล่ะ
ขอขอบคุณ GoodlifeUpdate