
ส่วนมากแล้ว คนที่ร่ำรวยมักบอกกับตัวเอง ว่าพวกเขาไม่มีปัญหาเรื่องเงิน
แม้จริง ๆ แล้วเขาจะมีปัญหาเรื่องเงินก็ตาม และนอกจากนี้ คนที่ร่ำรวยยังไม่กลัว
การที่จะเอาเงินของตนเองไปลงทุ นด้วย และคนรวยรู้ว่า ไม่ควรที่จะละล ายเงินไปกับบางสิ่ง
ที่ไม่สำคัญ เขาคิดตลอดว่าเขาไม่มีปัญหาเรื่องเงิน เพราะเขารู้อยู่เสมอว่า เงินของพวกเขา
จะไปอยู่กับการลงทุ น เพื่อที่จะทำให้ การลงทุ น มันทำกำไ รให้พวกเขาไงล่ะ
เขาเห็นว่า เงินเป็นเพื่อน
เพราะคนที่รวยนั้น มักจะคิดว่าเงินคือสิ่งหนึ่งในพันธมิตร ของพวกเขา พวกเขาคิดว่า
เงินคือเพื่อนที่มีอำนาจ และคนที่ร่ำรวย ยังเชื่อว่าเงิน จะสามารถแก้ปัญหา
และซื้อความสงบในจิตใจได้ ขณะที่คนชนชั้นกลาง พวกเขาจะเห็นว่าเงิน
คือสิ่งที่ชั่ วร้ ายที่ไม่มีที่สิ้นสุด แล้วเห็นว่า เงินเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต และต้องทนกับมันด้วย
พวกเขาปิ ดกั้นความกลั ว
เนื่องจากคนที่ร่ำรวย มักจะคิดว่าความกลัวไม่มีอยู่จริง และคนรวยมักจะคิดว่า
ทุก ๆ สิ่งในโลก ทุกสิ่งเป็นไปได้สำหรับพวกเขาเสมอ ในทุกความฝัน
ของพวกเขา อาจจะดูเหมือนบ้ าค ลั่ งก็จริง แต่เชื่อมั้ยว่า พวกเขาสามารถทำได้
เพราะงั้น ในการดำเนินงาน คุณจะต้องออกจาก c o m f o r t zone ก่อน นักคิดระดับโลก
ได้เรียนรู้ตั้งแต่แรกๆ แล้วว่าการจะเป็นเศรษฐี ไม่ง่ายเลน เราจึงต้องปิดกั้นความกลัวของเราให้ได้
เขาตั้งความหวังไว้สูง
เพราะในขณะที่คนชนชั้นกลาง จะกำหนดความคาดหวัง ทางการเงินไว้ต่ำๆ เพื่อให้พวกเขา
ไม่ผิดหวังมาก ถ้ามันไม่ได้อย่างที่คิด ในทางกลับกัน คนรวยมักตั้งความหวัง เรื่องการเงินไว้สูง
เพราะเมื่อพวกเขาตั้งความคาดหวัง ทางการเงินไว้สูง พวกเขาก็มักจะกำหนดเป้าหมาย
หาวิธีการที่พวกเขา จะได้รับเงินตามที่พวกเขาคาดหวังเอาไว้
เขาคิดว่า การทำเงินเป็นเก มอย่างหนึ่ง
คนที่รวย คิดว่าธุรกิจเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว และร ายได้เป็นเพียงเก ม
และพวกเขาจะต้องชนะด้วย นี่แหละเป็นเหตุผลที่เศรษฐี ยังคงออกไปทำงานทุกๆ วัน
เพื่อตามความสำเร็จของพวกเขาต่อไปเรื่อยๆ พวกเขาจะตื่นเต้นมาก เมื่อพวกเขาได้ทำงาน
ที่ทำให้พวกเขา ประสบความสำเร็จ